วันจันทร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2553

ความลับวิธีการเสียบยอดชวนชม ยังไงไม่ให้เน่า


ปัจจัยสำคัญของคนที่ใจรัก ปลูกชวนชม คือ อยากจะขยายพันธุ์ ชวนชม ต้นรักให้เยอะๆโดยใช้วิธีเสียบยอดชวนชม ตามที่เราได้เรียนรู้มาแต่ปัญหาก็คือเสียบยอดไปแล้วมันเน่า ตาย หรือ ไม่ติด ผมมีเทคนิคลับ (ตอนนี้ไม่ลับแล้ว) เอาไว้ลองทำดูครับ

1. เราต้องเลือกกิ่งพันธุ์ที่มีอายุ 2 ปี ขึ้นถึงจะได้ผลดี

2. อุปกรณ์ในการเสียบกิ่งชวนชมต้องสะอาด

3. ก่อนที่เราจะเสียบกิ่ง ตัวกิ่งพันธุ์และต้นตอ ต้องอดน้ำอดปุ๋ย อย่างน้อย 1 อาทิตย์

4. เลือกวันที่อากาศไม่ชื้น


เสร็จแล้วไปเสียบยอดชวนชมกันเลยครับ



วันจันทร์ที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เลี้ยงชวนชมให้สวยด้วยมือเราได้อย่างไร ?

การเลี้ยงชวนชมถ้ามองกันเผินดูเหมือนจะเลี้ยงง่าย แต่ความจริงการเลี้ยงชวนชมให้สวยด้วยมือเรา ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด ก่อนอื่นเราต้องรู้ว่าเราจะเลี้ยงชวนชมสายพันธุ์ประเภทไหน คือ
1. ถ้ามีรักและหลงไหลชวนชมตระกูล Socotranum เป็นการส่วนตัวแล้ว ต้องมีความใส่ใจ และมุ่งมั่นในการเลี้ยง โดยปกติไม้ตระกูลนี้เอกลักษณะของเขา จะเป็นแนวทรงอ้วนเตี้ย Compact เหมาะสำหรับท่านที่มีพื้นที่จำกัด เราสามารถจัดการกับไม้ของเราด้วยตัวเองขึ้นอยู่กับปัจจัย เช่น การเปลี่ยนดิน เปลี่ยนกระถาง การใส่ปุ๋ย การรดน้ำ จัดราก การเข้าลวด การอั้นยอด การทำรากตะขาบ แสงแดดเพียงพอหรือไม่ ตลอดจนการเสียบยอด และการเขี่ยเกสร ฉะนั้นเราจะเห็นว่าการเลี้ยงชวนชมให้สวยได้มีเทคนิคเยอะแยะไปหมด ต้องมีความเข้า และใส่ใจ ปฏิบัตให้ถูกต้องในทุกขั้นตอน โดยการศึกษาหาข้อมูลจากท่านที่มีประสบการณ์ ตำราหนังสือ หรือ สื่อ Internet จะช่วยให้เรามีความมั่นใจในการจะทำเทคนิคต่าง ๆ ได้ การปฏิบัติที่ผิดพลาดที่ผ่านจะบทเรียนสำหรับเราให้เป็นมืออาชีพได้อย่างไม่เก้อเขิน
2. ส่วนท่านที่ชื่นชอบไม้ตระกูล Arabicum หรือยักษ์เตี้ยนั้นเอง ก็ต้องหมั่นดูแลเหมือนกับไม้ตระกูล Socotranum เพียงแต่การเจริญเติบโตของตระกูล Arabicum จะรวดเร็วทันตาเห็น ส่วนไม้ตระกูล Socotranum ต้องใช้เวลาพอสมควรไม้ถึงสวยงาม
3. สำหรับท่านที่ชื่นชอบไม้ตระกูล Somalent หรือยักษ์สูง เช่น พวกยักษ์ญี่ปุ่น,อนาคอนด้า, เอกลักษณ์คือจะเป็นชวนชมที่มีลำต้นทรงสูง ยืนต้น ฉะนั้นการเลี้ยงจะต้องมีการใช้ไม้ช่วยค้ำยันเพื่อประคองให้ต้นแข็งแรง การดูแลจะไม่ยุ่งยากเหมือน Socotranum ให้ความใส่ใจเรื่องดิน น้ำ ปุ๋ย เป็นหลัก
4. สำหรับไม้สี รวมพวกดอกซ้อนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น 2,3 ชั้น ก็จัดอยู่ในตระกูล Obisum เอกลักษณ์คือเลี้ยงง่าย ได้เชยชมดอกตลอด โดยปกติไม้ตระกูลนี้กิ่งจะยืดยาว เราต้องตัดแต่งกิ่งบ่อย ๆ เพื่อให้ออกมาเป็นพุ่ม เทคนิคการเลี้ยงอาจจะไม่ยุ่งยากเหมือน Socotranum and Arabicum แต่ต้องให้หมั่นดูแลเรื่องดิน น้ำ ปุ๋ย ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
ฉะนั้นไม่ว่าเราเลี้ยงไม้ตระกูลไหนให้สวยได้ด้วยมือเรา ที่สำคัญคือต้องมีความรู้ความใจในสายพันธุ์ที่เราเลี้ยง การเจริญเติมโตของไม้ การให้ดอก การทนต่อสภาวะแวดล้อม สรุปแล้วชวนชมจะสวยด้วยมือเราขึ้นอยู่กับสายพันธุ์...ส่วนผสมของดิน...การให้ปุ๋ย...แสงแดดต้องเพียงพอ...การเอาใจใส่ (การจัดราก,การเปลี่ยนดิน,การเปลี่ยกระถาง,การเข้าลวด)...การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ขอให้ทุกท่านเลี้ยงชวนชมอย่างมีความสุข

วันเสาร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2553

ชวนชม หรือ กุหลาบทะเลทราย หรือ Adenuim Obesum

ชวนชมได้รับสมญาว่า Desert Rose หรือ “กุหลาบทะเลทรายเพราะเป็นไม้ที่ปลูกเลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพแห้งแล้ง ชวนชมถูกจัดอยู่ในสกุล Adenium obesum มีถิ่นกำเนิดอยู่ในทวีปแอฟริกา การปลูกและดูแลรักษาชวนชม
- ดินที่เหมาะในการปลูกชวนชมคือดินโปร่งร่วนซุย มีการระบายน้ำได้ดีคล้ายดินทรายผู้ปลูกชวนชมส่วนใหญ่จึงนิยมเติมวัสดุปรุงดินต่างๆ เพิ่มลงไปในดินเพื่อให้มีความร่วนซุย เช่น ใบก้ามปู กาบมะพร้าวสับ เปลือกถั่วลิสง แกลบดิบ และทรายหยาบ ผสมป๋ยคอกขี้วัว
- การให้น้ำ ชวนชมเป็นพืชที่มีลำต้นอุ้มน้ำไว้ค่อนข้างมาก เพราะชวนชมจะสมน้ำและอาหารไว้ที่โขด จึงทนต่อสภาพแห้งแล้งได้ดี หากชวนชมอยู่ในสภาพที่แฉะเกินไปหรือมีน้ำขังจะทำให้มีอาการเหี่ยวเฉา ใบเหลืองและร่วง หัวเน่าได้ง่าย ชวนชมเป็นไม้ที่ทนต่อสภาพแห้งแล้งและฟื้นตัวได้ง่าย เช่น ถ้างดน้ำประมาณ 1 สัปดาห์ ลักษณะต้นจะนิ่ม เมื่อได้รับน้ำและปุ๋ยอีกครั้งชวนชมจะแตกใบขึ้นมาใหม่ แต่ถ้าขาดน้ำนานเกินไปใบจะเหี่ยวหรือไหม้ตามขอบใบ ดอกจะเหี่ยวและร่วงเร็ว ชวนชมต้นที่ยังอ่อนต้องให้น้ำแต่น้อย ถ้าต้นอ่อนได้น้ำมากจะทำให้เน่าได้ง่าย การให้น้ำพอดีจะทำให้ต้นเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ถ้าเป็นชวนชมต้นใหญ่ควรให้น้ำวันละครั้ง สำหรับช่วงฤดูฝนอาจเว้นการรดน้ำบ้างตามความเหมาะสม น้ำที่ใช้รดควรเป็นน้ำที่สะอาดและไม่ควรรดน้ำให้โดนดอกเพราะจะทำให้กลีบดอกช้ำและร่วงเร็ว
- การให้ปุ๋ย ชวนชมเป็นพืชที่ต้องการปุ๋ยไม่มากนักเพราะฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยชวนชมมากนักเพราะจะทำให้ต้นชวนชมเน่าได้ ชวนชมต้นเล็ก ควรใส่ปุ๋ยที่มีตัวหน้าสูง ซึ่งจะบำรุงใบ (ธาตุไนโตรเจน N) เช่น 15-5-5 หรือสูตรเสมอ 15-15-15 ในปริมาณน้อยๆ ทุก 2 สัปดาห์ ประมาณ 1-2 เดือน เมื่อต้นโตเต็มที่พร้อมที่จะออกดอกจึงเปลี่ยนเป็นปุ๋ยเร่งดอกคือตัวกลางจะสูงเป็นธาตุฟอสฟอรัสสูง (P) ได้แก่ สูตร 8-24-24 ทุกๆ 2 สัปดาห์ ประมาณ 1-2 เดือนชวนชมจะออกดอก หลังจากนั้นบำรุงต้นโดยให้ปุ๋ยสูตรเสมอเดือนละครั้ง หรือถ้าต้องการให้โขดใหญ่อาจจะเสริมธาตุอาหารต้วท้ายเยอะ ๆ คือธาตุโปรแตสเซียม (K) ได้แก่สูตร 0-0-60 และให้ธาตุอาหารเสริมประมาณ 3 เดือนครั้ง จะขอพูดถึงคุณสมบัติของปุ๋ยขี้ไก่ และขี้ค้างคาว เป็นปุ๋ยที่เหมาะสำหรับเลี้ยงชวนชมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะขี้ค้างคาวจะมีธาตุฟอสฟอรัสสูงมาก ๆ ใช้กับชวนชมแล้วจะบำรุงดิน บำรุงดอก ดอกดก ปุ๋ยขี้ค้างคาวจะหายาก และราคาแพง ปุ๋ยขี้ไก่ก็ดีไม่แพ้ขี้ค้างคาว แต่เมื่อเปียกน้ำแล้วจะส่งกลิ่นเหม็นพอสมควร ส่วนขี้วัวหาง่ายราคาถูก แต่เสียตรงที่จะมีหญ้าขึ้นมาที่ดินปลูก
- สำหรับชวนชมที่ติดฝัก (ดูเทคนิคการเขี่ยเกสรชวนชมให้ติดฝักได้) ควรเว้นระยะการให้ปุ๋ยให้ห่างขึ้นและลดปริมาณการให้ปุ๋ยให้น้อยลง น้ำให้ตามปกติคือควรรดน้ำตอนเช้าวันละครั้ง
- ถ้าชวนชมออกดอกไม่ควรรดน้ำที่ดอก จะทำให้ดอกร่วง และไม่สมบูรณ์ ควรรดน้ำที่โขดของชวนชม
- ถ้าจะพูดถึงดินปลูกชวนชมก็มีอยู่กันหลายสูตร แล้วแต่ท่านพร้อมจะใช้สูตรไหน ได้แก่
สูตรแรก ทุกอย่างอัตรา 1 ต่อ 1 เสมอกัน คือ ทราย--ใบไม้--แกลบผุ--ปุ๋ยคอกเก่า--ขุยมะพร้าว
สูตรที่สอง ทุกอย่างอัตรา 1 ต่อ 1 เช่นกัน คือ ทราย---ขี้เถ่าแกลบ---ปุ๋ยคอกเก่า---ขุยมะพร้าว---ใบก้ามปู
การปลูกชวนชม ดินที่เหมาะในการปลูกชวนชม คือเป็นดินที่โปร่งร่วนซุย มีการระบายน้ำได้ดีคล้ายดินทราย จึงเติมวัสดุปรุงดินต่างๆ เพิ่มลงไปในดินเพื่อให้มีความร่วนซุย เช่น ใบก้ามปู กาบมะพร้าวสับ เปลือกถั่วลิสง แกลบดิบ และทรายหยาบ ผสมปุ๋ยคอก
-เทคนิคการเลี้ยงให้ดอกดกๆการ เลี้ยงชวนชมให้ดอกดกและสวยงามนั้น ต้องเลี้ยงกลางแจ้งให้ได้รับแสงแดด 100 เพราะชอบแดดจัด รดน้ำวันละครั้ง การเตรียมดินสำหรับปลูกควรใช้ดินผสมใบก้ามปูหรือดินขุยไผ่ และมะพร้าวสับอย่างละเท่าๆ กันผสมกันให้ทั่ว ใช้มะพร้าวสับรองก้นกระถางก่อนเพื่อการระบายที่ดี แล้วบำรุงด้วยปุ๋ยคอกผสมมะพร้าวสับ อัตรา 2ต่อ1 ใส่หน้าดินเป็นระยะ ๆ การ ตัดแต่งกิ่งทรงพุ่มเพื่อให้ชวนชมออกดอก เมื่อต้นชวนชมปลูกมาได้สมบูรณ์เต็มที่กิ่งทุกกิ่งอ้วนสมบูรณ์ แข็งแรงถ้าไม่สมบูรณ์ก็ไม่ควรตัดแต่งกิ่ง การตัดแต่งเพื่อให้ออกดอกให้ตัดแต่งกิ่งไปตามรูปทรงของต้นไม้หรือจะ เป็นทรงกลมหรือดอกเห็ดก็ได้ ควรตัดกิ่งทุกกิ่งอย่าให้มียอดเล็กยอดน้อยและใบเหลืออยู่หลังจากตัดแต่ง เสร็จก็อด น้ำประมาณ 15-20 วันจะเริ่มเห็นตุ่มดอกโผล่ออกมาจากตากิ่งก็เริ่มให้น้ำปกติเพื่อป้องกันดอก ฝ่อและแห้ง แล้วบำรุงด้วยปุ๋ยเร่งดอกสูตร 18-24-24

วันพฤหัสบดีที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2553

เขี่ยเกสรชวนชม

ช่วง เวลาที่เหมาะสมของการจะผสมเกสร หรือเขี่ยเกสร ได้ตั้งแต่ 07.00-10.00 น. เป็นช่วงที่น้ำค้างเริ่มแห้งจากดอกหมดพอดี ต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะครับ ว่าเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียจะสุกไม่พร้อมกัน โดย 1-3 วันแรก ตั้งแต่ดอกเริ่มบาน เกสรตัวผู้จะพร้อมผสมพันธุ์ และมีให้เห็นเยอะมาก ถ้าใช้อุปกรณ์สำหรับเขี่ยดู หลังจากวันที่ 3 ผ่านไปแล้ว เกสรตัวผู้จะน้อยลงและไม่ค่อยสมบูรณ์ ถ้าเขี่ยได้ เปอร์เซ็นต์ติดฝักจะน้อยมาก จึงควรเขี่ยช่วง 1-3 วันแรก ส่วนเกสรตัวเมียจะพร้อมและสมบูรณ์ ช่วงวันที่ 3-5 นับตั้งแต่ดอกเริ่มบาน ถ้านานวันเกินไป เกสรตัวเมียจะฟ่อไม่ติดฝัก ขั้นตอนที่ 1 ใช้อุปกรณ์สำหรับเขี่ย บางท่านอาจนำสายโทรศัพท์,ภู่กัน,ไม้จิ้มฟัน ทำการดัดปลายงอเหมือนไม้แคะหูสัก 2 อันเลยดีกว่า ขั้นตอนที่ 2 ทำการฉีกดอกออกดีกว่าเพราะจะเห็นเกสรชัดกว่า โดยฉีกจนเกือบถืงโคน รอสักครู่อาจจะยางชวนชมซึมออกมาให้ใช้กระดาษทิชชูซับออก อาจจะพิถีพิถันนิดใจเย็น ๆ ครับ ขั้นตอนที่ 3 เมื่อฉีกดอกแล้วจะพบเป็นโดมเกสร และระยางมีอยู่ 5 เส้น ให้ใช้อุปกรณ์สำหรับเขี่ยสอดเข้าไปตรงยอดโดม และควักเอาเกสรตัวผู้ขึ้นมา เป็นสีขาวปุยๆ ต้องหาให้เจอ ไม่ได้มีทุกดอก ไม่เจอก็พยายามต่อไป ขั้นตอนที่ 4 เป็นเทคนิคได้เล็กน้อที่ไม่ควรมองข้ามคือ "ใช้อุปกรณ์สำหรับเขี่ยอีกอันหนึ่ง เขี่ยเข้าไปในช่องอับของตัวเมีย เพื่อเปิดนำร่องก่อน เพราะถ้าเราไม่เปิดนำร่องก่อน จะเกิดปัญหาคือ เวลาจะเอาเกสรตัวผู้ที่ได้มา ใส่เข้าไปในอับเกสรตัวเมีย ก็จะติดอยู่ภายนอกไม่ยอมเข้าไป แต่ถ้าเราใช้อุปกรณ์สำหรับเขี่ยอีกอันหนึ่ง ที่ไม่มีเกสรตัวผู้ติดอยู่ นำร่องเข้าไปก่อน ทำให้อับเกสรตัวเมียจะเปิดออกเป็นช่อง คราวนี้ก็ง่ายแล้ว ให้เอาอุปกรณ์สำหรับเขี่ยโดยปลายลวดที่มีเกสรตัวผู้ติดอยู่ ใส่เข้าไปในช่องที่มีรอยแยกแล้วดึงขึ้นเบาๆ ดึงขึ้นให้สุดระยางค์ ที่เราเห็นเป็นเส้นๆ 5 เส้น สีชมพู เกสรตัวผู้จะติดและร่วงหล่นอยู่ภายใน และจะผสมกลับเกสรตัวเมียเอง (เกสรตัวเมียจะอยู่ล่างสุดของโคนดอก) ขั้นตอนที่ 5 เขียนชื่อว่า ผสมอะไรกับอะไรไว้กันลืม ขั้นตอนที่ 6 ที่สำคัญ เกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียต้องเป็นคนละดอกกัน ดอกเดียวกันผสมกันเองจะไม่ติด เพราะช่วงเวลาเกสรสุกไม่ตรงกัน ขั้นตอนที่ 7 สังเกตุว่าหลังจากทำการผสมไปแล้วดอกร่วง จะเห็นเป็นตุ่มแดง ๆ แสดงว่ามีเฮติดฝักแน่นอน มาชมภาพรายละเอียด










































































วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2553

วันจันทร์ที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553

ประวัติชวนชม และการแบ่งสายพันธุ์ชวนชม

ชวนชม (ชื่อวิทยาศาสตร์: Adenium obesum Balf., ชื่อสามัญ: Desert Rose; Impala Lily; Mock Azalea) เป็นชื่อของพรรณไม้ที่มีสีสันของดอกสวยงาม เป็นไม้ที่ปลูกเลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพแห้งแล้งมาก จนได้รับสมญาว่า Desert Rose (กุหลาบทะเลทราย) นอกจากนี้ตามความเชื่อของคนไทยชื่อ "ชวนชม" ยังเป็นชื่อที่มีความไพเราะเป็นศิริมงคล และชาวจีนว่า "ปู้กุ้ยฮวย" ซึ่งแปลว่า ดอกไม้แห่งความร่ำรวย ถิ่นกำเนิดของชวนชมมีการค้นพบครั้งแรกโดยนักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมันชื่อ P. Forskal ทางภาคตะวันออกของทวีปแอฟริกาแถบประเทศแทนซาเนียและเคนย่า ในปี พ.ศ. 2305 แต่ตอนนั้นเชื่อว่าเป็นเพียงลั่นทมพันธุ์ใหม่ ต่อมาปี พ.ศ. 2357 นายโจเซฟ ออกัสต์ ซูลตส์ (Josef August Schultes) นักพฤกษศาสตร์ชาวออสเตรีย ได้อธิบายความแตกต่างระหว่างชวนชมกับลั่นทมจนเป็นที่ยอมรับ ส่วนในประเทศไทย มีการพบชวนชมตั้งแต่ประมาณสมัยรัชกาลที่ 6 แต่ก็ไม่ทราบว่ามีการนำเข้ามาในประเทศไทยเมื่อไรชวนชมในยุคปัจจุบันชวนชมที่เป็นที่นิยมในยุคปัจจุบัน คือชวนชมสายพันธุ์ โซโครทรานั่มและอาราบิคั่ม หรือ ชวนชมยักษ์ซาอุ ชวนชมยักษ์ซาอุ ชวนชมสายพันธุ์นี้มีเอกลักษณ์ที่สวยงามต้นใหญ่ อวบ กิ่งก้านและดอกดกมาก พบมากในอำเภอ คง จังหวัดนครราชสีมา แบ่งเป็น4ตระกูลหลัก ได้แก่ เพชรเมืองคง เพชรหน้าวัง ยักษ์ดำ และ ราชินีพันดอก ส่วนโซโคทรานั่ม มีเอกลักษณ์คือ รากใหญ่ กิ่งสั้น แตกพุ่มคล้ายบอนไซ

สายพันธุ์ชวนชมมี 2 กลุ่ม

กลุ่มแรกตามแนวฝั่งตะวันออกของทวีปอาฟริกา มี 7 สายพันธุ์
1. Adenium obesum Balf. f. เป็นพวกไม้สีสายพันธุ์ฮอลแลนด์ต่างๆ
2. Adenium multiflorum Kiotzsch เป็นยักษ์อาฟริกา หรือ แดงเอ หรือ แดงอาฟ
3. Adenium swazicum Stapf เป็นกลุ่มพวกใบเรียวบิดเล็กพับมีขน ดอกมีสีเดียวกันทั้งดอกจนถึงในกรวยดอก เช่นช็อคกิ้งพิ้ง
4. Adenium bomianum Schinz เป็นพวกใบกว้างใหญ่มีขน ดอกมีสีเดียวกันถึงกรวยดอก เช่น ลักกี้พิ้งค์
5. Adenium olifolium Stapf เป็นพวกยักษ์ใบแบนแคบรูปใบพาย มีขน เช่นพันธุ์บลูฮาวาย
6. Adenium somalense var. somalense Balf. f. เป็นยักษ์ใบเรียวยาวแคบ เส้นใบขาวชัดเจน ไม่มีขน ลำต้นใหญ่สูง ดอกเล็ก มีเส้นนำน้ำหวานในกรวยดอกเห็นชัดเจน กลีบดอกละ 3 เส้น รวม 15 เส้น เช่นยักษ์ญี่ปุ่น
7. Adenium somalense var. crispum เป็นกลุ่มยักษ์ญี่ปุ่นแคระ ใบเรียวเล็กแคบ เส้นใบขาวเห็นชัดเจน ดอกเล็ก มีเส้นนำน้ำหวานในกรวยดอก 15 เส้น เช่นเดียวกับยักษ์ยี่ปุ่น แต่ลำต้นมีขนาดเล็กเตี้ย มีโขดหัวเตี้ย เช่น ลินลี่พุท

กลุ่มที่ 2 มี 2 สายพันธุ์ พบอยู่แถบคาบสมุทรอาหรับ
1. Adenium arabicum Balf. f. เป็นพวกยักษ์ซาอุฯต่างๆ มีโขดเตี้ย มีค้นขึ้นมาจากโขดหลายต้น และไปแตกแขนงกิ่งอีกที เช่นเพชรหน้าวัง , เพชรเมืองคง , ราชินีฯ , ยักษ์พญาชาละวันดำ ,ยักษ์ดำ , ยักษ์ลพบุรี เป็น
2. Adenium socotranum Vierh. เป็นพวกยักษ์ลักษณะเหมือต้นไม้กลับหัวเอารากขึ้นบน ใบมันไม่มีขน เช่น เพชรบ้านนา มงกุฏเพชร มงกุฏทอง เป็นต้น